วิธีการเลือกซื้อ กล้องวงจรปิด ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

การประเภทของกล้องวงจรปิด แบ่งได้ดังนี้

• กล้อง IP Camera (Wi-Fi/LAN)
  ติดตั้งง่าย เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ดูผ่านมือถือได้ทันที เหมาะกับบ้าน/สำนักงาน

• กล้อง Analog (CCTV เดิม)
  ใช้สายสัญญาณกับ DVR ราคาย่อมเยา แต่คุณภาพอาจไม่คมเท่า IP

• กล้อง Dome
  ดีไซน์กะทัดรัด ติดเพดาน มองรอบด้าน เหมาะกับร้าน/ออฟฟิศ

• กล้อง Bullet
  ตัวใหญ่ เห็นชัดเจน ติดผนัง เหมาะภายนอกอาคาร กันฝนกันแดด

• กล้อง PTZ (Pan-Tilt-Zoom)
  หมุนซ้าย-ขวา ก้ม-เงย ซูมได้ เหมาะพื้นที่กว้าง/โกดัง

• กล้องไร้สาย (Wireless)
  ติดตั้งง่าย ไม่ต้องเดินสาย แต่ควรมี Wi-Fi ที่สัญญาณแรง

เกณฑ์การเลือกซื้อ

• ความละเอียด (Resolution)
  ควรเลือก Full HD (1080p) เป็นขั้นต่ำ
  ถ้าต้องการภาพคมชัดมาก เลือก 2K–4K โดยเฉพาะถ้าใช้จับรายละเอียด เช่น ป้ายทะเบียน

• มุมมองและเลนส์ (Field of View)
  มุมกว้าง 100–160° จะครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น

• การมองกลางคืน (Night Vision)
  ใช้ อินฟราเรด (IR) หรือ Color Night Vision เพื่อให้เห็นชัดในที่มืด

• ระบบบันทึก

  • microSD Card → เหมาะบ้านทั่วไป

  • Cloud Storage → ดูย้อนหลังได้สะดวก แต่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน

  • NVR/DVR → เหมาะระบบหลายกล้อง ใช้งานระดับองค์กร

• การแจ้งเตือน (Smart Detection)
  เลือกที่มี Motion Detection / Human Detection / AI Alert แจ้งเตือนผ่านมือถือทันที

• เสียง
  บางรุ่นมี ไมโครโฟน + ลำโพง (Two-way Audio) คุยกับคนที่อยู่หน้ากล้องได้

• ความทนทาน
  ถ้าติดนอกบ้านควรเลือกกล้องที่มีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP65–IP67

• การเชื่อมต่อ

  • Wi-Fi 2.4GHz ใช้ง่ายทั่วไป

  • LAN สัญญาณเสถียรกว่า เหมาะกับระบบใหญ่

• ฟีเจอร์เสริม
  หมุนอัตโนมัติ (PTZ), ระบบติดตามคน, การจดจำใบหน้า, อินทิเกรตกับ Smart Home (Google Home, Alexa)

👉 สรุป

• ถ้าต้องการกล้องใช้ในบ้าน → IP Camera Wi-Fi 1080p–2K มุมกว้าง ดูผ่านมือถือได้

• ถ้าต้องการกล้องภายนอก → กล้อง Bullet กันน้ำ กันฝุ่น IP66 ขึ้นไป ภาพ 2K–4K

• ถ้าต้องการความปลอดภัยรอบด้าน/ระบบใหญ่ → กล้อง PTZ + NVR หลายจุด + AI แจ้งเตือน